เงินวอนของเกาหลีใต้และเงินเปโซของฟิลิปปินส์ร่วงลงนำสกุลเงินเอเชียเคลื่อนไหวอ่อนค่าถ้วนหน้าในวันนี้ หลังมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ตกหนักเกินคาด ซึ่งได้บดบังมุมมองในแง่บวกที่ว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกตกต่ำเริ่มคลี่คลายลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า 9 ใน 10 สกุลเงินของเอเชียที่ทำการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราไม่นับรวมเงินเยนของญี่ปุ่นนั้นร่วงลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นที่ดิ่งลงทั่วทั้งภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินที่ปลอดความเสี่ยงมากกว่าสกุลเงินในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์อาจระบุถึงภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่หดตัวลงในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ซึ่งชี้วัดการซื้อขายในตลาดเอเชียร่วงลง 2.3%
"โดยปกติแล้วสกุลเงินเอเชียมักอ่อนไหวตามตลาดหุ้น" ฟิลิป วี นักวิเคราะห์จากดีบีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งในสิงคโปร์กล่าว "รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่เลวร้ายบางรายการได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนและทำให้พวกเขาส่งแรงเทขายทำกำไรออกมา"
ทั้งนี้ ณ เวลา 11:50 น.ตามเวลาในกรุงโซล เงินวอนอ่อนค่าลง 1.1% ไปอยู่ที่ระดับ 1,257.50 ต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินเปโซตกลง 0.6% แตะที่ 47.660 ต่อดอลลาร์ ด้านเงินริงกิตของมาเลเซียลดลง 0.4% สู่ระดับ 3.5470 ต่อดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลง 0.4% ในเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ปรับลดลง 1.3% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดว่ายอดค้าปลีกจะย่ำฐานทรงตัวที่ระดับเดิม
ขณะเดียวกันผลสำรวจอีกฉบับระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจหดตัว 16.1% ในรอบ 3 เดือนที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. หลังจากที่ติดลบ 12.1% ในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ทั้งนี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรีมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำไตรมาสแรกในวันที่ 20 พ.ค.