นักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากร่วงลง 1.2% ในเดือนมี.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดตัวขึ้น และคาดว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
แม็กซ์เวลล์ คล้าก นักวิเคราะห์จาก 4Cast.com ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นหลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้ ซึ่งช่วยบรรเทาความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐจะเผชิญกับภาวะเงินฝืด อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลสหรัฐอัดฉีดเม็ดเงินหลายล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินอาจทำให้กระแสความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อกลับมาอีกครั้ง
"เราอาจไม่เห็นภาวะเงินฝืดเกิดขึ้นเพราะมีสภาพคล่องอยู่เป็นจำนวนมากในระบบการเงิน แต่การที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หันมากังวลเรื่องเงินเฟ้อมากกว่าเงินฝืด" คล้ากกล่าว
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 พ.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 610,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 601,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเมื่อไม่นานมากนี้โรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัท ไครสเลอร์ แอลแอลซี ต้องปิดตัวลงอย่างน้อย 30 วันในขณะที่ทางบริษัทดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กร
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PPI ประจำเดือนเม.ย.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย