นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.52) ธนาคารได้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs แล้วกว่า 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34.81%
สำหรับยอดอนุมัติสินเชื่อช่วง 4 เดือนแรก แยกตามพื้นที่ของลูกค้า เป็นสินเชื่อในภาคนครหลวง คิดเป็น 31% ภาคเหนือ 20% และภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ มีสัดส่วนเท่ากันคือ 16% การอนุมัติสินเชื่อของลูกค้าจะอยู่ในวงเงิน 15-40 ล้านบาท คิดเป็น 41% รองลงมา วงเงิน 3-15 ล้านบาท คิดเป็น 32% และวงเงิน 40-75 ล้านบาท คิดเป็น 16% ไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดเป็น 9% และมากกว่า 75 ล้านบาท คิดเป็น 2%
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าที่อนุมัติสินเชื่อจากธนาคารสูงที่สุดเป็นกลุ่มธุรกิจด้านบริการ 21% รองลงมาเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร 19% และภาคการผลิต 17% ที่เหลือเป็นภาคธุรกิจอื่นๆ
นายโสฬส กล่าวว่า ยอดอนุมัติสินเชื่อของธนาคารที่เติบโตขึ้น เนื่องจากธนาคารได้มีการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ ตั้งแต่ต้นปี 52 เพื่อให้เป็นธนาคารยุคใหม่ที่ทำงานแบบเชิงรุกมากกว่าเดิม อีกทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SMEs ต้องการเงินทุนเพื่อนำไปหมุนเวียนธุรกิจมากขึ้น โดยที่ธนาคารพาณิชย์มีนโยบายชะลอการปล่อยสินเชื่อ
ทั้งปี 52 ธนาคารวางเป้าหหมายปล่อยสินเชื่อรวม 26,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธนาคารได้ถึง 2,142 ราย และสามารถช่วยรักษาการจ้างงานได้ถึง 16,802 คน