ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ยกเว้นเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินความคาดหมาย และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่หลุดพ้นวิกฤตการณ์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1051 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.1071 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ขยับขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 95.540 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 95.400 เยน/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.36% แตะระดับ 1.5205 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับของวันพุธที่ 1.5151 ดอลลาร์/ปอนด์ และเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.19% แตะระดับ 1.3624 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3598 ดอลลาร์/ยูโร
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.64% แตะระดับ 0.7576 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.7528 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.59% แตะระดับ 0.5954 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5919 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 9 พ.ค.พุ่งขึ้น 32,000 ราย แตะระดับ 637,000 ราย จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 605,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 610,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไปเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 0.3% หลังจากดิ่งลง 1.2% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PPI ทั่วไปอาจเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนเม.ย. และดัชนี PPI พื้นฐานอาจเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งดัชนี PPI ที่พุ่งขึ้นเกินคาดเป็นเพราะราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
สกุลเงินเยนยังคงได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นรายงานว่า นักลงทุนรายย่อยในญี่ปุ่นแห่เข้าซื้อสกุลเงินเยนมากที่สุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเทขายทำกำไรเมื่อสกุลเงินเยนอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ รวมถึงยูโร ดอลลาร์นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย โดยนักลงทุนรายย่อยซึ่งรวมถึงนักธุรกิจ กลุ่มแม่บ้าน และประชาชนที่พึ่งพาเงินบำเน็จบำนาญ ได้เข้าถือสัญญาการทำมาร์จินทั้งสิ้น 153,326 สัญญาในเดือนที่แล้ว