เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมทบทวนกฎข้อบังคับซึ่งปัจจุบันเอื้อประโยชน์ต่อสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ อาทิ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายริชาร์ด บลูเมนทัล อัยการรัฐคอนเน็กติกัตระบุว่า กฎข้อบังคับของเฟดเอื้อประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมต่อบริษัทที่เป็นต้นตอของวิกฤตการเงิน
"เฟดกำลังทบทวนการทำงานของเราในเรื่องการเข้าถึงการทำงานของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งการทบทวนครั้งนี้ครอบคลุมถึงการจัดอันดับหลักทรัพย์ทุกประเภท" เบอร์นันเก้กล่าว
อัยการบลูเมนทัลระบุว่า มูดีส์ S&P และ ฟิทช์ เรทติ้งส์ มีส่วนทำให้เกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลกด้วยการให้อันดับเครดิตตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ที่ระดับ AAA เพียงเพื่อที่จะปรับลดอันดับเครดิตตราสารหนี้ในเวลาต่อมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทที่ถูกปรับลดอันดับและสร้างความสับสนให้กับนักลงทุน
ภายใต้ระบบปัจจุบัน บริษัทจัดอันดับเครดิตจะได้รับเงินจากบริษัทต่างๆ เป็นค่าตอบแทนในการช่วยจัดโครงสร้างเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งในเวลาต่อมาบริษัทจัดอันดับเหล่านี้ก็ยังดำเนินการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของเครื่องมือทางการเงินเหล่านี้อีก ซึ่งนางแมรี ชาปิโร ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ กล่าวว่า ผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นในอันดับความน่าเชื่อถือ และไม่เชื่อมั่นในคุณค่าของตราสารที่ถูกจัดอันดับ
นอกจากนี้ วุฒิสภาสหรัฐยังโจมตีสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนและปิดบังสถานะที่แท้จริงของบริษัทปล่อยกู้จำนอง จนเป็นเหตุให้กิดภาวะผันผวนในตลาดปล่อยกู้จำนองและสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลก อีกทั้งไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงของตราสารหนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน