นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง คาดว่า ช่วงไตรมาส1/52 เศรษฐกิจไทยอาจติดลบมากกว่า 6% แต่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นของภาคการส่งออก การลงทุน และการบริโภคภายในประเทศ โดยเห็นได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)ในเดือน เม.ย.ที่ปรับตัวดีขึ้นมาก แต่ยังต้องติดตามปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของ สศค. มองว่า แม้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/52 จะยังติดลบอยู่ แต่จะติดลบลดลงเหลือเพียง 4% จากนั้นในไตรมาส 3/52 คาดว่าจะติดลบเหลือ 3% ส่วนไตรมาส 4/52 เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาเป็นบวกได้มากกว่า 1% ซึ่งส่งผลให้ทั้งปี 52 เศรษฐกิจไทยจะติดลบอยู่ในช่วง 3-4%
ผู้อำนวยการ สศค.กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจหลายด้านมีทิศทางการฟื้นตัวในระดับหนึ่ง โดยการส่งออกตลาดบางแห่งติดลบน้อยลง และมูลค่าการส่งออกที่เคยลดลงก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด ส่วนการลงทุน และการบริโภคภาคเอกชนเริ่มเห็นสัญญาณจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)ในเดือน เม.ย.เพิ่มเป็น 35,000 ล้านบาท จากที่เคยจัดเก็บได้เฉลี่ย 30,000 ล้านบาท/เดือนในช่วงที่มีปัญหาเศรษฐกิจ
นอกจากนี้สัญญาณที่ดีอีกด้านคือภาวะตลาดหุ้นไทย เนื่องจากดัชนีปรับตัวขึ้นไปเกินระดับ 500 จุด ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่อัตราการว่างงาน ขณะนี้ไม่ได้ส่งสัญญาณที่เลวร้าย โดยเริ่มทรงตัวและมีเสถียรภาพมากขึ้น
ด้านฐานะการคลัง การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 52 ยังอยู่ในกรอบที่คาดว่าจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 280,000 ล้านบาท ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณยังเป็นกลไกลสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลทั้งงบกลางปีและงบประมาณปกติ มีการเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย
"โดยรวมสัญญาณทางเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นบ้างแล้ว สัญญาณการตกต่ำมีน้อยลง แต่คงต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด...ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งจากการได้หารือกับธนาคารโลก มองเศรษฐกิจไทยคล้ายสหรัฐที่คาดว่าจะเศรษฐกิจจะตกต่ำสุดในไตรมาสแรก แต่ไตรมาสสุดท้ายเศรษฐกิจจะเป็นบวกได้"นายสมชัย กล่าว