เงินหยวนมีแววแข็งค่าขึ้น 5% ปีนี้ หลังรบ.กระตุ้นการใช้เงินหยวนมากขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Friday May 15, 2009 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Bosera Asset Management Co ของจีนกล่าวว่า เงินหยวนของจีนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นสูงสุด 5% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เนื่องจากทางการจีนสนับสนุนการใช้สกุลเงินในประเทศมากขึ้น พร้อมคาดว่าเงินหยวนจะกลายเป็น 1 ใน 3 สกุลเงินสำคัญภายในช่วงเวลา 30 ปี เช่นเดียวกับเงินดอลลาร์และเงินยูโร

กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่จีนได้ทำข้อตกลงสว็อปค่าเงิน 6.50 แสนล้านหยวน (9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)กับเกาหลีใต้ อาร์เจนติน่า และเบลารุส ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีแผนที่จะใช้เงินในการซื้อขายระหว่างประเทศ ซึ่งความเคลื่อนไหวเหล่านี้กระตุ้นให้จีนมีกระแสเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ในปีนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นแล้ว 45% "อุปสงค์สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินหยวนจะขยายตัวขึ้นในยามที่จีนพยายามผลักดันให้มีการใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากลสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน ความวิตกกังวลต่อภาวะดอลลาร์อ่อนค่าจะกระตุ้นให้นักลงทุนอัดฉีดเงินทุนเข้ามาในตลาดเกิดใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน"

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในวันนี้เงินหยวนเทรดที่ระดับ 6.8245 ต่อดอลลาร์ ซึ่งได้ทะยานขึ้น 21% นับตั้งแต่ยกเลิกการการใช้นโยบายผูกติดค่าเงินในปี 2548 โดยในปีที่ผ่านมา เงินหยวนไต่ระดับขึ้น 7.1%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปีที่ 6.1% ในไตรมาสแรก แต่ยังมีสัญญาณบ่งชี้ในแง่บวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวนที่รัฐบาลประกาศใช้เพื่อช่วยสกัดกั้นภาวะตกต่ำของยอดส่งออก ส่วนการใช้จ่ายภาคโรงงานและอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 30.5% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้จากระดับในปีที่แล้ว ขณะที่ยอดค้าปลีกขยายตัว 14.8% จากปีก่อน ซึ่งทำสถิติขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 3 เดือน

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีที่สุดในโลกซึ่งภาวะเช่นนี้ช่วยกระตุ้นให้เงินหยวนแข็งค่าด้วยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ