ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมสหรัฐในเดือนเม.ย.มีแนวโน้มปรับตัวลงน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งการคาดการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณความมีเสถียรภาพในภาคอุตสาหกรรมการผลิต
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมขยับลง 0.6% หลังจากที่ดิ่งลง 1.5% ในเดือนมี.ค.ขณะที่รายงานอีกฉบับอาจระบุถึงต้นทุนค่าครองชีพที่ย่ำฐานทรงตัวในระดับเดิมเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นไต่ระดับขึ้นในเดือนนี้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.
บริษัทต่างๆอาจปรับลดกำลังการผลิตในไตรมาสนี้ หลังจากที่ได้โละสินค้าค้างสต็อกออกได้เร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งช่วยบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำได้ อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นยังช่วยให้การใช้จ่ายฟื้นตัวได้เพียงช่วงสั้นๆ
ไมเคิล อิงแลนด์ นักวิเคราะห์จากแอคชั่น อีโคโนมิกส์ กล่าวว่า "เรายังคงเผชิญกับภาวะเศรษฐกิตกต่ำในช่วงไตรมาส 2 แต่การทรุดตัวลงครั้งนี้จะไม่ดิ่งหนักเหมือนอย่างแต่ก่อน"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดรายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมในเวลา 09:15 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานจะรายงานข้อมูลราคาผู้บริโภคในเดือนเม.ย.ที่นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะมีเสถียรภาพดีขึ้น หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนก่อนหน้านี้
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า "เรายังมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจเดินมาถึงจุดต่ำสุดและจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปลายปีนี้ ปัจจัยสำคัญที่เราได้ประเมินไปคือตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีเสถียรภาพและยอดสินค้าคงคลังที่มีอยู่เป็นจำนวนมหาศาลนั้นจะค่อยๆปรับตัวลดลงในช่วง 2-3 ไตรมาสต่อจากนี้"