เศรษฐกิจของ 16 ประเทศในเขตยูโรโซนหดตัว 2.5% ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังภาคเอกชนต่างลดกำลังการผลิตและปลดพนักงานเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบกว่า 60 ปี
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปในกรุงลักเซมเบิร์ก เปิดเผยว่า จีดีพีของกลุ่มประเทศยูโรโซนหดตัวลง 2.5% ในไตรมาสแรกของปีนี้ จากที่หดตัวเพียง 1.6% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลจีดีพีของกลุ่มยูโรโซนในปี 2538 นอกจากนั้นยังย่ำแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะหดตัวเพียง 2%
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ยอดส่งออกของยุโรปซบเซาและทำให้การใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง กดดันให้ภาคเอกชนต้องลดต้นทุนการใช้จ่ายและปลดพนักงานในที่สุด โดยเศรษฐกิจเยอรมนีและอิตาลีก็หดตัวมากสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกเช่นกัน
"เศรษฐกิจอาจหดตัวต่อไปจนถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น" คริสตอฟ วีล นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท คอมเมิร์ซแบงค์ เอจี ในแฟรงค์เฟิร์ท กล่าว