กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ทรงตัวในเดือนเม.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ หลังจากร่วงลง 0.1% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดพลังงานและอาหาร เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 9 เดือน
รายงานระบุว่า ราคาพลังงานโดยรวมร่วงลง 2.4% โดยราคาน้ำมันเบนซิน น้ำมันฮีทติ้งออยล์ และก๊าสธรรมชาติ ปรับตัวลดลงถ้วนหน้าในเดือนเม.ย. ส่วนราคาอาหารลดลง 0.2%
ลินด์เซย์ พิกซา นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล กล่าวว่า บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ตั้งแต่วอล-มาร์ท ไปจนถึงเมซีย์ อิงค์ ประกาศลดราคาสินค้าเพื่อดึงดูดผู้บริโภค หลังจากเศรษฐกิจหดตัวลงทำให้ผลกำไรของบริษัททรุดตัวลงด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความกังวลว่า ราคาสินค้าที่ปรับตัวลดลงมากเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะเงินฝืด หรือ ภาวะถดถอยยาวนานจนสร้างความลำบากให้กับประชาชนที่เป็นลูกหนี้
"การที่ผู้บริโภคพากันประหยัดการใช้จ่ายแม้ห้างสรรพสินค้าลดราคาลงอย่างมากนั้น อาจทำให้ดัชนี CPI หดตัวลง เราคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้คณะกรรมการเฟดแสดงความกังวลเรื่องเงินฝืด" พิกซากล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน