ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มประกัน หลังจากมีรายงานว่าบริษัทประกันยักษ์ใหญ่หลายแห่งยื่นขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ทรงตัวในเดือนเม.ย. และกิจกรรมด้านการผลิตที่ปรับตัวลงน้อยกว่าคาด
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 62.68 จุด หรือ 0.8% แตะที่ 8,268.64 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 10.19 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 882.88 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขยับลง 9.07 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 1,680.14 จุด
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการเงินของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าบริษัทประกันรายใหญ่หลายแห่งยื่นขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลสหรัฐ และรายงานคาดการณ์ที่ว่าดีมานด์พลังงานจะลดลงในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 2.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 57.85 56.34 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐ
โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 931.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 934.5-924.8 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจะทุเลาลงในเร็วนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรถูกกดันอย่างหนักหลังจากรัฐบาลเยอรมนีรายงานว่าเศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.09% แตะระดับ 1.3485 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3633 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.36% แตะระดับ 1.5166 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5221 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.78% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 95.120 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 95.870 เยน/ดอลลาร์ แต่พุ่งขึ้น 1.60% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1221 ดอลลาร์/ฟรังค์ จากระดับ 1.1044 ดอลลาร์/ฟรังค์
ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นในระยะใกล้นี้
โดยดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 14.47 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 4,348.11 จุด