ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) แนะนำธนาคารกลางทั่วโลกให้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงินที่มีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในระบบการเงิน
"ถ้าธนาคารกลางมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความเสี่ยงเชิงระบบได้ ธนาคารกลางก็จะไปถึงเป้าหมายหลักๆที่วางไว้ ซึ่งบทบาทเหล่านี้อาจรวมถึงการเพิ่มมาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงินที่ส่อเค้าลางว่าจะทำให้ระบบการเงินตกอยู่ในความเสี่ยง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่าธนาคารกลางของประเทศใดใช้นโยบายการเงินที่รัดกุมเพียงพอที่จะสร้างเสถียรภาพด้านการเงินในเชิงระบบได้" BIS กล่าวในแถลงการณ์
ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งหาทางฟื้นฟูตลาดการเงินหลังจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์สได้สร้างความระส่ำระสายให้กับระบบการเงินทั่วโลก ขณะที่วิกฤตการณ์สินเชื่อซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากสหรัฐได้ส่งผลให้สถาบันการเงินทั่วโลกขาดทุนกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
แถลงการณ์ของ BIS มีขึ้นหลังจาก ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของ 19 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ โดยระบุว่า มีธนาคาร 10 แห่งที่ต้องระดมทุนเพิ่มเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 7.46 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา จำเป็นต้องเพิ่มทุนมากที่สุดที่ระดับ 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์, ธนาคารเวลส์ ฟาร์โกต้องเพิ่มทุน 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์, บริษัท GMAC ต้องเพิ่มทุน 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์, ซิตีกรุ๊ป อิงก์ ต้องเพิ่มทุน 5.5 พันล้านดอลลาร์ และมอร์แกน สแตนลีย์ ต้องเพิ่มทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน