นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า การที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ชะลอการพิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท เพื่อรอผลการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ สร้างความเสียหายเกิดขึ้นแก่เศรษฐกิจโดยรวมอย่างแน่นอน และฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
แม้การออก พ.ร.ก. ดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้วหลังผ่านการพิจารณาจาก ครม.แล้วโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ผ่านสภาฯ แต่ในทางปฎิบัติการกู้เงินของกระทรวงการคลังต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเป็นการกู้เงินที่มีข้อผูกพันในระยะยาว ซึ่งอาจจะมีผลกระทบเกิดขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้นจึงเห็นว่า เรื่องดังกล่าวควรต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ด้วย และแม้การตีความของรัฐธรรมนูญที่ออกมา อาจเป็นช่วงการปิดประชุมสภาแล้ว รัฐบาลก็สามารถยื่นขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้
"เมื่อฝ่ายค้านยืนยันที่จะใช้สิทธิ ก็ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประชาชน ต่อโอกาสสร้างงานสร้างรายได้ของประชาชนและฝ่ายค้านควรต้องรับรู้ และพร้อมอธิบายได้ เพราะประชาชน รอเม็ดเงินจากรัฐบาล ในขณะที่รัฐบาลจะได้อะไรจากการกระทำของฝ่ายค้าน...ความจริงเร่งด่วนมีจริงที่รัฐบาลต้องกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นกังวล เพียงแต่เสียดายเวลาที่สูญเสียโอกาสที่จะถึงมือประชาชน" นายกรณ์ กล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า แม้จะมีการชะลอการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินฯ 4 แสนล้านบาท เพื่อรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่การเดินหน้าโครงการลงทุนของรัฐบาลตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปี 55 ยังต้องเดินหน้าตามขั้นตอนต่อไป ทั้งการเจรจา การประกวดราคา หรือการทำสัญญาการลงทุนต่างๆ ส่วนแผนการกู้เงิน กระทรวงการคลังต้องพร้อมเดินหน้าตามแผน และเมื่อกฎหมายมีความชัดเจนเพื่อให้แผนนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว