ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคและผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ในสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดยบริษัท นีลเซน โค บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันหันมาดื่มเบียร์มากกว่าไวน์ เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐทำให้ผู้บริโภคประหยัดการใช้จ่ายและไม่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย
แดนนี่ เบรเกอร์ รองประธานบริษัท นีลเซน ซึ่งทำการสำรวจรสนิยมของนักดื่มกว่า 5,000 คนในสหรัฐ กล่าวว่า การเลือกดื่มเครื่องดื่มของผู้บริโภคถือเป็นดัชนีชี้วัดสภาวะเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มและการใช้จ่ายแล้ว โดยหันมาดื่มเบียร์แทนไวน์ เพราะเบียร์มีราคาถูกกว่ามาก พวกเขาตัดใจลดดื่มไวน์และหันมาซื้อเบียร์ เพราะเงินที่ใช้ซื้อไวน์ขวดหนึ่งสามารถซื้อเบียร์ได้แพ็คใหญ่
บลูมเบิร์กได้จัดทำข้อมูล CHART OF THE DAY โดยอ้างอิงข้อมูลจาก London International Vintners Exchange and futures พบว่า ปริมาณการนำข้าวบาร์เลย์เพื่อผลิตเบียร์มีมากขึ้น ขณะที่ราคาไวน์ตกต่ำลงเป็นลำดับนับตั้งแต่เลห์แมน บราเธอร์สล้มละลายในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว
คาร์ลอส บริโต ซีอีโอบริษัท InBev NV ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์ Budweiser กล่าวว่า "นักดื่มหันมาดื่มเบียร์แทนไวน์กันมากขึ้น ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับเรา ซึ่งอาจทำให้เบียร์เลื่อนชั้นเป็น 'กระแสหลัก' แทนไวน์ในไม่ช้านี้ เราคาดว่ามาร์จิ้นในตลาดเบียร์จะพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากราคาเพิ่มขึ้น"
นอกจากนี้ ผลสำรวจของ Harris Interactive Inc. ระบุว่า นักดื่มชาวอเมริกันร้อยละ 67 หันมาดื่มเบียร์แทนไวร์ ซึ่งมากกว่า 3 ปีที่แล้วที่ร้อยละ 62 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน