ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐเตรียมประกาศกฎการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ของรถยนต์ทั่วประเทศในวันพรุ่งนี้ โดยบริษัทผู้ผลิตรถจะต้องผลิตให้ได้ตามมาตรฐานใหม่ที่สนับสนุนให้มีการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพที่ 35.5 ไมล์ต่อแกลลอนภายในปี 2559 ซึ่งถือว่า รัฐบาลสหรัฐตั้งใจนำกฎระเบียบใหม่ในการจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาใช้เร็วกว่าที่ได้มีการวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ถึง 4 ปี
แผนการดังกล่าวของโอบามานั้นได้ประยุกต์มาจากแผนการนำเสนอมาตรฐานของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐแรกที่ได้มีการกำหนดขีดจำกีดในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับยานพาหนะในสหรัฐ
บริษัทรถและรัฐแคลิฟอร์เนียได้ลงนามในข้อเสนอดังกล่าว นับเป็นการยุติความขัดแย้งเกี่ยวกับการนำเสนอกฎเกณฑ์ดังกล่าวในรัฐ โดยนายอาร์โนลด์ ชาวร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และฟริทซ์ เฮนเดอร์สัน ซีอีโอ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (GM) คาดว่า จะเข้าร่วมในพิธีการประกาศกฎระเบียบดังกล่าวด้วยเช่นกัน
บลูมเบิร์กรายงานว่า เดวิด แมคเคอร์ดี ประธานสหพันธุ์ผู้ผลิตยานยนต์ กล่าวว่า การกำหนดกฎเกณฑ์ดังกล่าวขึ้นมานี้ถือเป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ ประธานาธิบดีประสบความสำเร็จในการดึงหน่วยงานกำกับดูแล รัฐ 15 รัฐ บริษัทรถจำนวนมาก และกลุ่มองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมมาร่วมประชุมกัน
ทั้งนี้ สหพันธุ์ผู้ผลิตยานยนต์เป็นตัวแทนบริษัทรถ 11 ราย ได้แก่ จีเอ็ม ไครสเลอร์ ฟอร์ด และโตโยต้า
มาตรฐานใหม่ของโอบามานี้สอดคล้องกับกฎหมายปี 2547 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีการกำหนดระยะทางการสิ่งรถและการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ 35.5 ไมล์ต่อแกลลอน ขณะที่กรมการขนส่งสหรัฐกำหนดให้บริษัทรถปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับการผลิตรถรุ่นปี 2554 ที่ 27.3 ไมล์ต่อแกลลอน
ทั้งนี้ กฎหมายที่สภาคองเกรสได้อนุมัติเมื่อปี 2550 นั้น กำหนดให้บริษัทรถเพิ่มมาตรฐานการประหยัดเชื้อเพลิงอย่างน้อย 40% ซึ่งจะเป็นการบีบให้บริษัทรถเหล่านี้ผลิตรถและเครื่องยนต์ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 35 ไมล์ต่อแกลลอนภายในปี 2563
แดน เบคเคอร์ ผู้อำนวยการเซฟ ไคลเมท แคมเปญ กล่าวว่า การดำเนินการของโอบามาถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในการควบคุมภาวะโลกร้อน โดยรัฐแคลิฟอร์เนียประสบความสำเร็จในด้านเป้าหมายการปล่อยก๊าซ บริษัทรถเองก็ได้ประโยชน์เช่นกัน รัฐบาลกลางเองก็จะกำหนดมาตรฐานการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพไปตลอดจนถึงปี 2559 ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะกำหนดขึ้นบนพื้นฐานของรถ ทั้งในเรื่องขนาดและน้ำหนักด้วยเช่นกัน
ทางด้านเฮนเดอร์สันกล่าวว่า จีเอ็มมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติกฎใหม่อย่างเต็มที่ โดยจีเอ็มและอุตสาหกรรมยานยนต์จะได้รับประโยชน์จากนโยบายที่มีความต่อเนื่องและแน่นอนในการแนะแนวทางให้กับแผนการผลิตรถ