"โกลด์แมน แซคส์-เจพีมอร์แกน-มอร์แกน สแตนลีย์"เตรียมเท $4.5 หมื่นล้านคืนโครงการ TARP

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 19, 2009 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และมอร์แกน สแตนลีย์ เตรียมชำระเงินรวม 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์คืนให้กับทางการสหรัฐ ซึ่งสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่งรับเงินช่วยเหลือวงเงินดังกล่าวจากโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

การชำระคืนเงินดังกล่าวต้องขออนุมัติจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งหากเฟดอนุมัติขั้นตอนดังกล่าว ก็จะทำให้การชำระเงินคืนครั้งนี้เป็นจำนวนเงินสูงสุดนับตั้งแต่สภาคองเกรสก่อตั้งโครงการ TARP เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งการก่อตั้งโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย

เจพีมอร์แกน, โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ เป็น 3 ใน 9 สถาบันการเงินที่นายเฮนรี พอลสัน อดีตรมว.คลังสหรัฐ แนะนำให้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการ TAPR งวดแรก 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเสถียรภาพตลาดการเงิน

ปีเตอร์ ซอร์เรนติโน นักวิเคราะห์จาก Huntington Asset Advisors กล่าวว่า การที่สถาบันการเงินทั้ง 3 แห่งมีเป้าหมายคืนเงินให้กับโครงการ TARP นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในหมู่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่ออกมาเคลื่อนไหวในด้านบวกและยังสะท้อนให้เห็นว่าสถานะการเงินของสถาบันการเงินในสหรัฐยังแข็งแกร่ง

ในช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เฟดได้เปิดเผยผลทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของ 19 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ ซึ่งระบุว่ามีธนาคาร 10 แห่งที่ต้องระดมทุนเพิ่มเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 7.46 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา จำเป็นต้องเพิ่มทุนมากที่สุดที่ระดับ 3.39 หมื่น ล้านดอลลาร์ ธนาคารเวลส์ ฟาร์โกต้องเพิ่มทุน 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ บริษัท GMAC ต้องเพิ่มทุน 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ซิตีกรุ๊ป อิงก์ ต้องเพิ่มทุน 5.5 พันล้านดอลลาร์ และมอร์แกน สแตนลีย์ ต้องเพิ่มทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์

ส่วนธนาคารอีก 5 แห่งที่ต้องเพิ่มทุนได้แก่ รีเจียนส์ ไฟแนนเชียล เพิ่มทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ ซันทรัสต์ แบงค์ 2.2 พันล้านดอลลาร์ คีย์คอร์ป 1.8 พันล้านดอลลาร์ ฟิทธ์ เธิร์ด แบงคอร์ป 1.1 พันล้านดอลลาร์ และพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล 600 ล้านดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ