ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านใหม่ในหสรัฐอาจดีดตัวขึ้นในเดือนเม.ย. จากระดับเกือบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. ในขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซามาตลอด 4 ปีใกล้ดิ่งลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว
โดยนักเศรษฐศาสตร์จากสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านใหม่อาจดีดตัว 2% แตะ 520,000 หลังในเดือนเม.ย. ส่วนการอนุมัติสร้างบ้านใหม่อาจดีดตัวขึ้น 2.7% แตะ 530,000 หลัง
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ ราคาบ้านที่ลดลงอย่างมาก และมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านภาษีกับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้บ้านค้างสต็อกขายออก หลายฝ่ายเชื่อว่าสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดีขึ้นอาจช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในช่วงปลายปีนี้ แต่คงต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างมั่นคง เนื่องจากอัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี
"ข้อมูลเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นน่าจะช่วยหนุนให้ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านดีดตัวขึ้นได้" ทอม พอร์เซลลี นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท อาร์บีซี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ คอร์ป ในนิวยอร์ก กล่าว "แต่บริษัทสร้างบ้านต้องระวังอย่าลงทุนมากเกินไป เพราะปัจจัยเสี่ยงต่างๆยังคงมีอยู่"
กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขเริ่มสร้างบ้านอย่างเป็นทางการ ณ เวลา 8.30 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยคาดว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะอยู่ระหว่าง 465,000-564,000 หลัง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มส่งสัญญาณให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพบ้างแล้ว โดยยอดขายบ้านมือสองซึ่งเคยดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 20 ปีในเดือนม.ค. ก็เริ่มดีดตัวขึ้น ส่วนยอดขายบ้านมือหนึ่งก็ดีดตัวจากระดับต่ำสุดในเดือนม.ค.เช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน