นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวเอพีสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวรุนแรงที่สุดในไตรมาสแรก เนื่องจากยอดส่งออกทรุดตัวลงและภาคเอกชนลดการณ์ผลิต โดยคาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกจะหดตัวลง 15.8%ต่อปี ซึ่งจะเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มรวบรวมตัวเลขจีดีพีในปีพ.ศ.2498 หลังจากหดตัวลง 12.1%ต่อปีในไตรมาสสี่ปีที่แล้ว มาซายุกิ คิชิกาวะ นักวิเคราะห์จาก Bank of America-Merrill Lynch ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า ญี่ปุ่นพึ่งพาตลาดส่งออกรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศเพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจให้อยู่รอด แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆในเอเชียที่เมื่อเศรษฐกิจโลกหดตัวลงก็ฉุดยอดส่งออกภายในประเทศทรุดตัวลงด้วย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลกที่มีจุดเริ่มต้นในสหรัฐ
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในญี่ปุ่นส่งผลให้บริษัทส่งออกรายใหญ่ อาทิ โตโยต้า มอเตอร์ และโซนี คอร์ป ปรับลดต้นทุนและการใช้จ่ายในโรงงาน อีกทั้งประกาศลดการจ้างงานหลายพันคนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศใช้งบประมาณกระตุ้นการใช้จ่ายภาคสาธารณะ โดยล่าสุดใช้งบประมาณสูงถึง 1.50 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือประชาชนที่ตกงานและธุรกิจขนาดเล็ก
ด้านนายเททสึฟูมิ ยามาคาวะ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ สาขาญี่ปุ่น กล่าวว่า ยอดส่งออกญี่ปุ่นชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ภาคเอกชนลดการสำรองสินค้าคงคลั และลดการผลิต อย่างไรก็ตาม ยามาคาวะคาดว่าการที่เศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นยังคงขยายตัวได้ดี ประกอบกับมาตรการฟื้นฟูของรัฐบาลญี่ปุ่น จะช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีญี่ปุ่นขยายตัวขึ้น 2-3%ต่อปี ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้