นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รักษาการอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมรัฐสภาผ่านความเห็นชอบ ความตกลงว่าด้วยการลงทุนภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและเกาหลี ส่งผลให้การเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรี(FTA) อาเซียน-เกาหลีใต้บรรลุเป้าหมายการเจรจาความตกลงครบ 5 ฉบับแล้ว ซึ่งจะทำให้การค้าการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่ายขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก
ทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามความตกลงดังกล่าวในการประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีใต้ สมัยพิเศษ วันที่ 1-2 มิ.ย.นี้ ณ เกาะเชจู เกาหลีใต้ เพื่อเฉลิมฉลองและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ยาวนานถึง 20 ปี
สำหรับความตกลงทั้ง 5 ฉบับ ได้แก่ 1.กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมด้านต่างๆ ระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลี 2.ความตกลงว่าด้วยกลไกการระงับข้อพิพาท 3.ความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้า 4.ความตกลงว่าด้วยการค้าบริการ และ 5.ความตกลงว่าด้วยการลงทุน
สาระครอบคลุมการเปิดเสรีการลงทุน และการให้ความคุ้มครองการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งการเปิดเสรีจะครอบคลุม 5 สาขา ได้แก่ เกษตร ประมง ป่าไม้ เหมืองแร่ และภาคการผลิต ในส่วนการคุ้มครองการลงทุนจะให้การปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อนักลงทุนที่เป็นภาคี เช่น ชดเชยค่าเสียหายแก่นักลงทุนในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่สงบหรือรัฐบาลเวนคืนที่ดินของนักลงทุน การจัดตั้งกลไกระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐกับนักลงทุน เป็นต้น
"ความตกลงนี้จะเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ก่อให้เกิดการดึงดูดการลงทุนระหว่างกัน สำหรับไทยนอกจากจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติแล้ว คนไทยที่ไปลงทุนในเกาหลีใต้จะได้รับการคุ้มครองมากขึ้นด้วย" นางนันทวัลย์กล่าว
ปัจจุบันการลงทุนจากเกาหลีใต้ในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 4,620 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 8 ของการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งลงทุนมากในสาขาเหมืองแร่, เซรามิกส์, โลหะขั้นมูลฐาน สาขาอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สาขาเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก