กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนเม.ย.ร่วงลง 12.8% แตะระดับ 458,000 ยูนิต ซึ่ง เป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 525,000 ยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างในเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.3% แตะระดับ 494,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 511,000 ยูนิต
ข้อมูลดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะดีดตัว 2% แตะ 520,000 ยูนิตในเดือนเม.ย. ส่วนการอนุมัติสร้างบ้านอาจดีดตัวขึ้น 2.7% แตะที่ 530,000 ยูนิต
นอจากนี้ ตัวเลขการสร้างบ้านในเดือนเม.ย.ยังร่วงลงสวนทางกับที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ความเชื่อมั่นของบริษัทสร้างบ้านในสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในเดือนพ.ค. โดยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของ NAHB/เวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้นสู่ระดับ 16 จุด ในเดือนพ.ค. จากระดับ 14 จุด ในเดือนเม.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และทำให้นักวิเคราะห์มองว่าภาวะตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจสิ้นสุดลงเร็วๆนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน