แบงก์ ออฟ อเมริกา สถาบันการเงินรายใหญ่สุดของสหรัฐในแง่สินทรัพย์เดินหน้าระดมทุนจำนวน 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้นสามัญ หวังกระตุ้นฐานเงินทุนให้พร้อมรับมือในกรณีที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังยืดเยื้อต่อไป
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานแถลงการณ์ของแบงก์ ออฟ อเมริกาที่ระบุว่า ธนาคารได้ออกหุ้นมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ โดยตั้งราคาเสนอขายเฉลี่ยที่ 10.77 เหรียญต่อหุ้น ซึ่งธนาคารมีแผนที่จะกระตุ้นฐานเงินทุนให้ได้ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ผ่านการขายหุ้นสามัญรวมถึงการแปลงหุ้นบุริมสิทธิ์ที่ส่วนใหญ่มักถือครองโดยนักลงทุนสถาบัน
แอนโทนี่ พอลินี่ นักวิเคราะห์จากเรย์มอนด์ เจมส์ กล่าวว่า "ผมคิดว่านี่เป็นความเคลื่อนไหวที่ดี และเชื่อว่านักลงทุนสถาบันจะยอมขายหุ้นหรือแปลงหุ้นเพื่อระดมทุนให้กับธนาคาร"
ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา มีความจำเป็นต้องระดมทุนมากที่สุดในบรรดาธนาคารทั้ง 19 แห่งที่ได้ทำการทดสอบสถานะความแข็งแกร่งทางการเงิน (stress test) โดยธนาคารต้องระดมทุนเพิ่มขึ้น 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ได้ระดมทุนเพิ่ม 8.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนมอร์แกนสแตนลีย์เพิ่มทุนไป 4 พันล้านดอลลาร์
โจ ไพรซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า "เรายินดีที่จะขายหุ้นเพื่อช่วยให้แผนการระดมทุนประสบความสำเร็จ เพราะจะเท่ากับเป็นการสร้างความแข็งแกร่งและความหลากหลายให้กับโครงสร้างเงินทุนของธนาคาร"
ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะเพิ่มทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการขายสินทรัพย์และกระตุ้นกำไรก่อนหักภาษีให้ได้ที่ 7 พันล้านดอลลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากธนาคารพิจารณาทางเลือกอื่นๆในการระดมทุนให้ได้ตามเป้าที่ 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ โกลด์แมน แซคส์ได้เพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนให้กับแบงก์ ออฟ อเมริกาจาก “neutral" ขึ้นเป็น “buy" โดยคาดว่ารายได้ช่วงไตรมาสสองของธนาคารจะอยู่ที่ 25 เซนต์/หุ้น