สกุลเงินในเอเชียอ่อนค่าลงนำโดยเงินรูเปียห์อินโดนีเซีย หลังรัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่าเศรษฐกิจประเทศหดตัวหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่แล้ว ก่อให้เกิดกระแสความวิตกว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ร่วงลงอาจทำให้เศรษฐกิจถดถอยนานกว่าเดิม
โดยดัชนีเอเชียดอลลาร์ของบลูมเบิร์ก-เจพีมอร์แกนปรับตัวลดลง หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า นักลงทุนจะลดการถือครองสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่และหันไปลงทุนในสกุลเงินที่ปลอดภัยกว่าอย่างดอลลาร์และเยน ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียก็ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐก็รายงานว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านลดลงเกินคาด
"การที่สกุลเงินเอเชียปรับฐานลงถือเป็นเรื่องปกติหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา" แพทริค เบนเน็ทท์ นักยุทธศาสตร์จาก โซซิเอเต เจเนอราล เอสเอ กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 1.4% ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. สู่ระดับ 10,370 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ ณ เวลา 9.45 น.ตามเวลาจาการ์ตา ส่วนเงินวอนเกาหลีใต้อ่อนค่า 0.2% แตะ 1,252.30 วอนต่อดอลลาร์ และเงินเปโซฟิลิปปินส์อ่อนค่า 0.3% สู่ระดับ 47.42 เปโซต่อดอลลาร์ ในขณะที่เงินดอลลาร์เอเชียปรับตัวลดลง 0.2% แตะ 107.71 จุด
ทั้งนี้ จีดีพีญี่ปุ่นหดตัวลง 15.2% ในช่วงไตรมาสซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. หลังจากที่หดตัวลง 14.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียร่วงลง 4.3% เหลือ 88.8 จุดในเดือนพ.ค. และตัวเลขเริ่มสร้างบ้านสหรัฐร่วง 13% เหลือ 458,000 หลังในเดือนเม.ย.