ประธานาธิบดีหม่า อิง-จิว ของไต้หวันกล่าวย้ำว่า ไต้หวันจะยังมุ่งเน้นการสานสัมพันธ์กับจีนในประเด็นเศรษฐกิจต่อไป แต่การทำข้อตกลงสันติภาพจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อจีนยกเลิกโครงการขีปนาวุธพิสัยใกล้ทั้งหมด
ผู้นำไต้หวันแถลงกับสื่อมวลชนต่างชาติในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีโดยย้ำถึงความสำคัญด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีน ซึ่งนายหม่าได้ลดท่าทีที่แข็งกร้าวในประเด็นการแยกดินแดนไต้หวันออกจากจีน ด้วยการเริ่มทำข้อตกลงเปิดเที่ยวบินทางตรง รวมถึงบริการขนส่งข้ามช่องแคบไต้หวันมากขึ้น
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวกว่า 87,000 คนจากจีนแผ่นดินใหญ่เดินทางเข้ามายังไต้หวัน ขณะที่ไต้หวันก็อนุญาตให้นักลงทุนชาวจีนเข้ามาถือหุ้นในบริษัทไต้หวันเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หม่าย้ำว่าแม้ไต้หวันจะหาทางประสานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับจีน แต่จะไม่เจรจาในประเด็นการรวมชาติหรือการตั้งต้นเป็นอิสระจากจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนได้อ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีนและขู่ว่าจะใช้จะใช้กำลังเพื่อผลักดันให้เกิดการรวมชาติ โดยจีนมักขัดขวางไต้หวันไม่ให้เป็นสมาชิกต่อหน่วยงานต่างๆในเวทีโลก และยังกีดกันการขึ้นเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า จีนได้เพิ่มการประจำการขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่มุ่งหน้าไปยังไต้หวันถึง 1,150 ลูกเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ 790 ลูกเมื่อช่วงปลายปี 2548