ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก หลังนักลงทุนแห่ถือครองสกุลเงินอื่น

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 21, 2009 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐมีแนวโน้มคลี่คลาย ซึ่งทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์และหันไปให้ความสนใจกับสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าได้เข้าซื้อหลักทรัพย์มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.34% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.720 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 96.010 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.85% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1000 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1094 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.13% แตะที่ 1.3777 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3623 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.76% แตะระดับ 1.5746 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5473 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.25% แตะระดับ 0.7753 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.7734 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.73% แตะระดับ 0.6047 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6003 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก มิลเลียน คอร์ป กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้น ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ โดยนักลงทุนมองว่าดอลลาร์อาจเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่เศรษฐกิจยังคงอยู่ในระยะถดถอย แต่ในช่วงบ่าย ดอลลาร์อ่อนแรงลงหลังจากนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่าระบบการเงินกำลังเริ่มที่จะฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลจากความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล และจากการที่เฟดได้เข้าซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

เฟดประกาศลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะหดตัวลง 1.3-2% ซึ่งมากกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.5-1.3% และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 10% จากเดิมที่คาดว่าไว้ที่ 8.8%

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนในช่วงเช้าหลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา สถาบันการเงินรายใหญ่สุดของสหรัฐในแง่สินทรัพย์ ประกาศระดมทุนเพิ่มมูลค่า 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้นสามัญ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นฐานเงินทุนให้พร้อมรับมือในกรณีที่เศรษฐกิจยังคงเผชิญกับภาวะถดถอย

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้น หลังจากทางการออสเตรเลียเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงในเดือนพ.ค. ขณะที่รัฐบาลเตรียมใช้งบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาหนักจนอาจทำให้อัตราว่างงานพุ่งสูงถึง 1 ล้านคนภายในระยะเวลา 2 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ