นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไต้หวันจะหดตัวลง 9.26% ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าจากไต้หวันไปยังสหรัฐและจีนทรุดตัวลง ขณะที่ผู้บริโภคและภาคเอกชนภายในประเทศแห่ลดการใช้จ่าย
เฉิง เฉิง-หมง นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไต้หวันทำให้ภาคเอกชนลดการจ้างงานมากที่สุดในเดือนเม.ย. รวมถึงบริษัท เอยู อ็อพโทรนิคส์ และไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ เมนูแฟคเจอริง อย่างไรก็ตาม ดัชนีเว็ทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันพุ่งขึ้น 46%ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และความสัมพันธ์อันราบรื่นระหว่างจีนและไต้หวัน
"เศรษฐกิจไตรมาสแรกของไต้หวันหดตัวรุนแรงสุดเนื่องจากดีมานด์สินค้าจากจีนและสหรัฐอ่อนตัวลง ขณะที่อัตราการลงทุนและการใช้จ่ายในไต้หวันก็ทรุดตัวลงด้วย เราคาดว่าเศรษฐกิจไต้หวันจะหดตัวลงต่อเนื่องในไตรมาสสอง อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่จะเอื้อประโยชน์ต่อภาคส่งออกของไต้หวันนั้น จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไต้หวันไม่ให้หดตัวลงมากนัก" นายเฉินกล่าว
ประธานาธิบดีหม่า อิง-จิว ของไต้หวันแถลงกับสื่อมวลชนต่างชาติในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ว่า ไต้หวันจะยังมุ่งเน้นการสานสัมพันธ์กับจีนในประเด็นเศรษฐกิจต่อไป โดยนายหม่าได้ลดท่าทีที่แข็งกร้าวในประเด็นการแยกดินแดนไต้หวันออกจากจีน ด้วยการเริ่มทำข้อตกลงเปิดเที่ยวบินทางตรง รวมถึงบริการขนส่งข้ามช่องแคบไต้หวันมากขึ้น
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวกว่า 87,000 คนจากจีนแผ่นดินใหญ่เดินทางเข้ามายังไต้หวัน ขณะที่ไต้หวันก็อนุญาตให้นักลงทุนชาวจีนเข้ามาถือหุ้นในบริษัทไต้หวันเช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน