นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐอาจดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยหนักสุดในรอบกว่า 50 ปีเริ่มคลี่คลายลงแล้ว
โดยผลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสำนักงาน Conference Board น่าจะดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือว่าปรับตัวสูงขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2548 ในขณะเดียวกันก็คาดว่าปัจจัยอื่นๆ อย่างตัวเลขภาคการผลิตจะหดตัวช้าลงและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานก็น่าจะลดลงด้วย
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าราคาหุ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ถึงกระนั้นอัตราว่างงานที่พุ่งแตะดับสูงสุดในรอบ 25 ปี และคาดว่าจะไต่ระดับอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
"เศรษฐกิจหลุดพ้นจากช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดแล้ว แต่ยังคงซบเซาอยู่ดี" เดวิด เซมเมนส์ นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แบงค์ ในนิวยอร์ก กล่าว "ตลาดแรงงานยังคงซบเซา นอกจากนั้นผู้บริโภคก็ยังเข้าถึงสินเชื่อได้ไม่มากเท่าในอดีต"
สำนักงาน Conference Board มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจในเวลา 10.00 น.โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ระหว่างหดตัว 0.2% ถึงขยายตัว 1.4% หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.3% ในเดือนมี.ค.
นอกจากนั้นในเวลาเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐสาขาฟิลาเดลเฟียก็อาจเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิต ซึ่งคาดว่าอาจดีดตัวขึ้นแตะ -18 จุดในเดือนพ.ค. จาก -24.4 จุดในเดือนเม.ย. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน