ความเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งโลกอาหรับของซาอุดิอาระเบียเริ่มสั่นคลอน เมื่อสหรัฐเอมิเรตส์แสดงท่าทีแข็งข้อด้วยการถอนตัวออกจากการใช้สกุลเงินเดี่ยวอาหรับ หลังจากซาอุดิอาระเบียได้รับโหวตให้มีสิทธิจัดตั้งธนาคารกลางอาหรับ ซึ่งการถอนตัวของเอมิเรตส์ส่งผลให้ความฝันของกลุ่มประเทศสมาชิกสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ที่จะจัดตั้งสมาพันธ์ด้านการเงิน ต้องดับลง
ฌอง-ฟรองซัวส์ เซเน็ค ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ชาติอาหรับประจำมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กล่าวว่า "กลุ่มชาติอาหรับมีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) รวมกันราว 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ การที่เอมิเรตส์แสดงท่าทีแข็งข้ออาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของ 6 ชาติสมาชิก GCC ที่ต้องการใช้สกุลเงินเดี่ยว เพื่อเป้าหมายที่จะให้นโยบายการเงินของอาหรับเป็นอิสระจากสหรัฐอเมริกา เนื่องจากชาติอาหรับถูกกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลกและถูกอิหร่านมองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร"
"ซาอุดิอาระเบียจะต้องแสดงจุดยืนให้เห็นว่าตนเองเข้าใจความวิตกกังวลของประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม GCC และซาอุดิอาระเบียจะต้องหาทางรับมือกับท่าทีอันแข็งกร้าวของเอมิเรตส์ด้วย" เซเน็คกล่าว
เมื่อวานนี้ เอมิเรตส์ ซึ่งมีแหล่งสำรองน้ำมันดิบขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกและมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มชาติอาหรับ รองจากซาอุดิอาระเบีย ประกาศว่าจะไม่ยอมมีส่วนร่วมในสมาพันธ์การเงิน หลังจากซาอุดิอารเบียได้รับโหวตให้มีสิทธิจัดตั้งธนาคารกลางอาหรับ
ศาสตราจารย์ อับดุลคาลิค อับดุลเลาะห์ แห่งมหาวิทยาลัยเอมิเรตส์กล่าวแสดงความเห็นว่า "เอมิเรตส์ต้องการนั่งเก้าอี้ผู้ว่าการธนาคารกลางอาหรับด้วยตนเอง และรู้สึกไม่พอใจที่ซาอุดิอาระเบียเป็นเหมือนหอกข้างแคร่ เอมิเรตส์มองว่าซาอุดิอาระเบียไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ในโลกอาหรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่พอใจที่ซาอุดิอาระเบียพยายามทำตัวเป็นพี่เบิ้มในโลกอาหรับ ที่ใช้อำนาจเบ็จเสร็จจัดการกับทุกสิ่งเสมอมา"
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดระบุว่า จีดีพีของซาอุดิอาระเบียมีสัดส่วนสูงถึง 47% ของจีดีพีโดยรวมในกลุ่ม GCC ซึ่งมากกว่าเอมิเรตส์ถึง 2 เท่า และซาอุดิอาระเบียเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งกลุ่ม GCC ในปีพ.ศ.2524 ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองริย้าด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน