ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกตัวเลขขาดดุลสหรัฐ ฉุดดอลล์ร่วงเทียบสกุลหลักๆ

ข่าวต่างประเทศ Friday May 22, 2009 07:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐอาจมีตัวเลขขาดดุลที่สูงเกินคาด

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.59% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.290 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 94.850 เยน/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.69% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0930 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1006 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.96% แตะที่ 1.3902 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.3770 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.79% แตะที่ 1.5858 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5734 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.25% แตะที่ 0.7762 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.7742 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.56% แตะระดับ 0.6077 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ0.6043 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

เดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จาก Foreign Exchange Analytics กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ถูกเทขายอย่างหนักนับตั้งแต่รัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระดับการเงิน ขณะที่เคน วินด์เฮม ผู้เชี่ยวชาญด้านปริวรรตเงินตราและเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Strategic Fixed Income LLC ในสหัฐ คาดการณ์ว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะร่วงลงอีกเพราะถูกกดดันจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลสรัฐและยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วินด์เฮมกล่าวว่า นักลงทุนต้องการเทขายสกุลเงินดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐ และหันเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร โดยเมื่อวานนี้ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดเตรียมเข้าซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งหมายความว่าจะมีเม็ดเงินสกุลเงินดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินสหรัฐมากขึ้น

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของอังกฤษ ลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากภาระหนี้สินของอังกฤษที่เพิ่มขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับอังกฤษ อาจถูกลดอันดับเครดิตด้วยเช่นกัน

ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2552 หรือสูงกว่าปีงบประมาณก่อนหน้าถึง 4 เท่า โดยยอดขาดดุลมูลค่ามหาศาลบ่งชี้ว่ารัฐบาลเสียเงินจำนวนมากไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและกอบกู้วิกฤตการณ์การเงิน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานลดลง 12,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ค. สู่ระดับ 631,000 ราย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 643,000 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนชาวอเมริกันที่ว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ