นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะคงโควต้าการผลิตน้ำมันเป็นครั้งที่สองในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นอาจทำให้โอเปคยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะลดปริมาณการผลิตในระยะนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการตัดสินใจคงโควต้าการผลิตครั้งที่สองจะมีขึ้นในการประชุมโอเปควันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค.นี้
ไมค์ วิทเนอร์ นักวิเคราะห์ด้านตลาดน้ำมันจากธนาคารโซซิเอเต เจนเนอราล เอสเอ กล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นไปแล้ว 86% จากระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ทำสถิติไว้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งอาจทำให้โอเปคมองว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีน้ำหนักมากพอที่จะคงโควต้าการผลิตไว้ที่ 24.845 บาร์เรล/วัน"
"แม้สต็อกน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูง แต่เราคาดว่าโอเปคจะยังไม่ลดโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลและยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับบวกลบไม่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ได้นั้น มีเหตุผลมากพอที่โอเปคจะยังไม่รีบลดการผลิต" วิทเนอร์กล่าว
ปีเตอร์ บูเทล นักวิเคราะห์จาก Cameron Hanover Inc กล่าวว่า "โอเปคจะคงโควต้าการผลิตเอาไว้ก่อนเพื่อหยั่งเสียงชาติสมาชิกรายใหญ่ว่าจะยอมทำตามมติส่วนใหญ่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้เช่นกันว่าโอเปคจะลดโควต้าการผลิตแม้ในยามที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย"
อัดนาน ชีฮับ-เอลดิน รมว.พลังงานคูเวต ซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการโอเปคกล่าวว่า โอเปคอาจจะยังไม่ลดการผลิตน้ำมันในระยะนี้ ขณะที่รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลถือเป็นระดับที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ ซึ่งมีเพียงรมว.พลังงานอิหร่านและเวเนซูเอล่าเท่านั้นที่เรียกร้องโอเปคให้ลดโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมสัปดาห์หน้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน