ชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะพุ่งขึ้น 2.5% ในปีพ.ศ.2554 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของเฟด และเตือนว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อร้ายแรง
"เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญปัญหาเงินเฟ้อมากกว่าที่คิด และปัญหาเงินเฟ้อนี้เองที่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่จะทำให้ความเชื่อของสหรัฐถูกสั่นคลอน ผมคาดว่าดัชนี CPI ของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 2.5% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.7-2% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่บางคนที่เคยกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อลดลงไปด้วย" พลอสเซอร์กล่าวในที่ประชุมที่กรุงนิวยอร์ก
พอลสเซอร์กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดตัวเลขงบดุลเมื่อตลาดการเงินและตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับที่เฟดเคยให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพด้านราคา
เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะหดตัวลง 1.3 - 2% ซึ่งเป็นการปรับลดคาดการณ์ที่สูงกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.5-1.3% และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 10% จากเดิมที่คาดว่าไว้ที่ 8.8% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน