นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้วิจารณ์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลเดินมาผิดแนวทาง โดยเฉพาะการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตในขณะที่เศรษฐกิจกำลังทรุดตัว โดยยืนยันว่า รัฐบาลได้ดำเนินการปรับขึ้นภาษีในช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเหล้า บุหรี่ เป็นการจัดเก็บภาษีจากประชาชนเฉพาะกลุ่ม โดยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนกลุ่มอื่น ส่วนกรณีที่มองว่าควรมีการปรับขึ้นภาษีในช่วงเวลาเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะปกติแล้วนั้น ต้องชี้แจงว่ารัฐบาลจำเป็นต้องขึ้นภาษีในช่วงนี้ เนื่องจากได้พิจารณาผลจากภาวะเศรษกิจ และผลกระทบด้านสุขภาพ
"ภาษีที่ปรับขึ้นเป็นในส่วนเฉพาะคนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การที่รัฐบาลตัดสินใจขึ้นภาษี เป็นช่วงภาวะที่ถูกต้อง ไม่มีการเพิ่มภาระให้ประชาชนส่วนอื่น ๆ หากคุณโอฬารไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีก็ถือเป็นความเห็นของท่าน"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจง ถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎรได้ถกเถียงถึงการขึ้นภาษีเหล้าที่ไม่เป็นธรรม โดยมองว่ามีการขึ้นภาษีเหล้าขาวน้อยกว่าเหล้าประเภทอื่น อาจเป็นการเอื้อกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มว่า การขึ้นภาษีเหล้ารัฐบาลไม่ได้อิงแก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่พิจารณาตามความเป็นจริง
และปัญหาการขึ้นภาษีเหล้าขาว ที่ประชุม ครม.ได้มีการถกเถียงเรื่องนี้กันมาก เนื่องจากผู้ผลิตส่วนใหญ่จะเป็นระดับชุมชน แต่การปรับขึ้นภาษีเหล้า ต้องปรับพร้อมกันหมด และเห็นว่าแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในระดับเหมาะสมแล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งฉายารัฐบาลว่าเป็นขอทานขาดทุน เนื่องจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนนั้น เห็นว่าเป็นเพียงมุขเก่าๆ