รัฐบาลญี่ปุ่นได้ผ่อนปรนนโยบายควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยหันมาใช้มาตรการรับมือเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลแทน เพื่อคลี่คลายความตื่นตระหนกเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจและเศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า นโยบายที่รัฐบาลได้ผ่อนปรนได้แก่ นโยบายในด้านการกักบริเวณ การตรวจสอบเที่ยวบิน และไม่ได้ระบุถึงความรุนแรงของไวรัสในคู่มือที่จะมีการเผยแพร่ในวันนี้ นอกจากนี้ ยังได้มีการยกเลิกมาตรการตรวจสอบร่างกายผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโกบนเครื่องบินอีกด้วย
ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 293 รายแล้ว โดยโตเกียวยืนยันผู้ติดเชื้อเป็นรายที่ 3 แล้ว ขณะที่เกียวโตยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นเด็กชายอายุ 10 ปี ทำให้เกียวโตเป็นเขตที่ 6 ที่ยืนยันผู้ติดเชื้อ และทำให้เกิดความวิตกว่าการติดเชื้อในเกียวโตครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในเกียวโตซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว
ขณะที่บริษัท เอ็นทีที โดโคโม ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นได้ยกเลิกการแถลงข่าวเพื่อเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ที่มีกำหนดจัดขึ้นที่โตเกียว โอซาก้า นาโกย่า และฟูกุโอกะไปแล้ว โดยอ้างเหตุผลเรื่องการระบาดของไข้หวัดใหญ่ H1N1
นายทาเคโอะ คาวามูระ หัวหน้าเลขาธิการครม.ญี่ปุ่น กล่าวว่า เราควรจะมองว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลมากกว่าที่จะเป็นไวรัสที่อันตรายเหมือนอย่างไวรัสไข้หวัดนกหรือซาร์ส ประชาชนควรจะระมัดระวังตัวไว้ แต่ก็ไม่ควรจะแตกตื่น
การผ่อนปรนมาตรการดังล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่โรงเรียนต่างๆพากันปิดทำการ บริษัทต่างๆยกเลิกการประชุม และประชาชนจำนวนมากยกเลิกแผนการเดินทาง
สมาคมโรงแรมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า มีประชาชนยกเลิกแผนการเดินทางเยือนภาคตะวันตกของญี่ปุ่นแล้วถึง 362,200 ราย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเกียวโต นาระ โอซาก้า และจุดหมายปลายทางอื่นๆในภาคตะวันตก ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวประมาณ 4.3 พันล้านเยน หรือ 46 ล้านดอลลาร์