บริษัท จีแมค แอลแอลซี ได้รับเงินจากกระทรวงคลังสหรัฐแล้ว จำนวน 7.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อที่จะขยายวงเงินกู้แก่บริษัท ไครสเลอร์ และยังเตรียมขายพันธบัตรที่รัฐบาลหนุนหลังเป็นครั้งแรกอีกด้วย หลังจากจีแมคที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
บลูมเบิร์กรายงานว่า วงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ที่จีแมคได้รับนั้น แบ่งเป็นวงเงินที่จีแมคจะปล่อยกู้ให้กับกลุ่มผู้ซื้อและขายหุ้นของไครสเลอร์จำนวน 4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนเงินที่เหลืออีก 3.5 พันล้านดอลลาร์จะถูกนำไปใช้ช่วยจีแมคให้มีเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจต่อไป หลังจากที่ผ่านการตรวจสอบความแข็งแกร่งทางการเงิน (stress test) กระทรวงคลังคาดว่า จะถือหุ้น 35.4% ในบริษัท
การอัดฉีดเงินทุนระลอก 2 ทำให้วงเงินที่รัฐบาลสหรัฐช่วยเหลือจีแมคเพิ่มขึ้นเป็น 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ นับเป็นการส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านไฟแนนซ์แก่ลูกค้าและดีลเลอร์ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) และไครสเลอร์ หลังจากที่ไครสเลอร์ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายไปเมื่อวันที่ 30 เม.ย. และจีเอ็มเองก็มีแนวโน้มว่า จะเดินรอยตามไครสเลอร์ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หลังจากที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐต้องเผชิญกับยอดขายรถที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 18 เดือนด้วยกัน
เคิร์ค ลุดท์ นักวิเคาะห์ของซีอาร์ที แคปิตอล กรุ๊ป กล่าวว่า การที่จะช่วยให้ธุรกิจของจีเอ็มและไครสเลอร์มีเสถียรภาพนั้น จะต้องช่วยให้จีแมคและซัพพลายเออร์มีเสถียรภาพก่อน และตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องเดินไปในทิศทางดังกล่าว
ทั้งนี้ สัญญาของจีแมคกับรัฐบาลระบุว่า จีแมคจะต้องเป็นผู้ดูแลด้านไฟแนนซ์ให้กับไครสเลอร์ และปล่อยเงินกู้ให้กับลูกค้าที่ต้องพึ่งพาไครสเลอร์ ไฟแนนเชียล