นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของไทยจะหดตัวลง 6.5% จากปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินเอเชียเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.นี้
ราด์ชิกา ราโอ นักวิเคราะห์จาก IDEAglobal Ltd ในสิงคโปร์กล่าวว่า ""เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัว 6.5% ในไตรมาสแรก ซึ่งไทยต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่ต่างกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ ดีมานด์ที่อ่อนตัวลงทั่วโลกส่งผลให้ยอดส่งออกของไทยซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นแรงขับเคลื่อนหลักนั้น ทรุดตัวลงด้วย นอกจากนี้ การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและบั่นทอนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ กล่าวว่า "เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทรุดตัวหนักสุดในไตรมาสแรก ซึ่งแม้ว่าจะมีสัญญาณบ่งชี้ในทางบวก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น ไทยจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจหดตัวจนถึงปลายปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในปีหน้า"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไทยประกาศใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่ครอบคลุมถึงการแจกเช็คช่วยชาติ หลังจากเศรษฐกิจถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.25% โดยระบุว่าเศรษฐกิจหดตัวในระดับปานกลางและยังคงมีความเสี่ยงอยู่มาก