ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีประจำเดือนพ.ค.มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 จากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางซึ่งกระตุ้นให้เกิดความหวังว่าวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สองจะเริ่มคลี่คลายลงในปลายปีนี้
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของสถาบัน Ifo จะเพิ่มขึ้นแตะที่ 85 จุด จากระดับ 83.7 จุดในเดือนเม.ย. ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีที่ 82.2 จุดในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ รัฐบาลชุดนายกรัฐมนตรีแองเจล่า เมอร์เกลของเยอรมนี กำลังพยายามดึงเศรษฐกิจเยอรมนีให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยโดยมีแผนใช้จ่ายเงินราว 8.2 หมื่นล้านยูโร (1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่รัฐบาลคาดว่า เศรษฐกิจในปีนี้อาจหดตัว 6% ขณะที่นายเอ็กเซล เวเบอร์ ประธานธนาคาร Bundesbank และหนึ่งในเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มมีสัญญาณในแง่บวกว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงปลายปีนี้ เจอร์เกน มิเชล นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป อิงค์ในลอนดอนกล่าวว่า "เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้หลังจากที่ซบเซาอย่างหนัก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะมาตรการด้านการเงินของรัฐบาล ซึ่งทำให้เยอรมนีก้าวผ่านจุดตกต่ำที่สุดของวิกฤตการณ์ในครั้งนี้แล้ว"
ขณะเดียวกัน ในเดือนนี้ ธนาคารกลางยุโรปได้ปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% พร้อมประกาศว่าจะซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรเพื่อกระตุ้นตลาดสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ที่ตกต่ำทั่วโลกยังคงสร้างแรงกดดันให้บริษัทต่างๆปรับลดกำลังการผลิต และสถาบันด้านเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีคาดการณ์ว่า เยอรมนีจะมีผู้ตกงาน 1.4 ล้านคนในปีนี้และปีหน้า ซึ่งจะทำให้อัตราว่างงานเฉลี่ยพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 4.7 ล้านคน