นายอาลี โรดริเกซ รมว.คลังเวเนซูเอล่ากล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ต้องการให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล เพื่อรักษาสถานะการลงทุนใหม่ๆในอุตสาหกรรมพลังงาน
"จริงๆแล้วเมื่อราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำนานๆจะส่งผลให้ราคาทะยานขึ้นในที่สุด เนื่องจากการผลิตและการลงทุนที่ชะลอตัวลงส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานตึงตัว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้ราคาน้ำมันสูงสุด สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้คือการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันทั่วโลกลดน้อยลง รวมถึงการสำรวจและขุดเจาะ และการกลั่นน้ำมัน ซึ่งในระยะยาว สถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น" โรดริเกซกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่เอกวาดอร์
นายชอกรี กาเน็ม ประธานการปิโตรเลียมแห่งลิเบีย คาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ถึง 50% ที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดโควต้าการผลิตในการประชุมวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การคาดการณ์ของนายกาเน็มสอดคล้องกับที่นายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียแสดงความเห็นเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มโอเปคจะลดโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้ และนายชากิบ เคลิล รมว.พลังงานอัลจีเรียที่คาดการณ์ว่า โอเปคจะลดโควต้าการผลิตด้วยเช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน