นายประนาบ มุกเฮอร์จี รมว.คลังอินเดียที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่พรรคคองเกรสชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว เปิดเผยว่า เศรษฐกิจอินเดียจะได้รับอานิสงส์จากเสถียรภาพในรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมาก ด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกหดตัวลง
นายมุกเฮอร์จี ซึ่งสมาชิกคนเก่าแก่ของพรรค วัย 73 ปี และรักษาการในตำแหน่งรมว.คลังตั้งแต่เดือนม.ค.หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมันโมฮัน ซิงห์ มีอาการดีขึ้นกล่าวว่า ความแข็งแกร่งของรัฐบาลชุดใหม่ของอินเดียจะช่วยสนับสนุนให้เกิดกระแสสินเชื่อหลั่งไหลเข้ามาในประเทศ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นในวงกว้าง
ทั้งนี้ นายมุกเฮอร์จีทำหน้าที่ในตำแหน่งรมว.คลังอินเดียมานาน ตั้งแต่สมัยนายกฯคานธี และมีชื่อเสียงจากการเป็นนักแก้ปัญหาในครม.ชุดนายกฯซิงห์ ตั้งแต่ปี 2547 ด้วยการคลี่คลายความขัดแย้งในกลุ่มรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล
บลูมเบิร์กรายงานว่า อลาสแตร์ นิวตัน นักวิเคราะห์ด้านการเมืองของโนมูระ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ตลาดคาดหวังไว้สูงกับรัฐบาลชุดใหม่ และรมว.คลังคนใหม่ก็มีเรื่องท้าทายในด้านเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทางการเมืองที่เกิดขึ้น
ดัชนีตลาดหุ้นอินเดียทะยานขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 17% เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่พรรคคองเกรสของนายซิงห์ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่นักลงทุนก็คาดการณ์ว่า ชัยชนะครั้งนี้จะทำให้รัฐมนตรีคลังคนใหม่ผ่อนปรนกฎระเบียบการลงทุนจากต่างประเทศ และขายสินทรัพย์ของรัฐบาล ซึ่งล้วนเป็นนโยบายที่หยุดชะงักไปในรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้
พรรคคองเกรสได้รับที่นั่งในสภา 262 ที่นั่ง จากทั้งหมด 543 ที่นั่งในการเลือกตั้ง แต่ยังขาดอีก 10 เสียงจึงจะได้เสียงข้างมาก ทำให้พรรคคองเกรสต้องดึงพรรคระดับท้องถิ่นเข้ามามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล และได้เสียงเพิ่มเป็น 322 ที่นั่ง ซึ่งุถือเป็นคะแนนเสียงที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2534 ที่นายซิงห์นับตำแหน่งรมว.คลังได่นำนโยบายตลาดเสรีมาใช้จนทำให้เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวขึ้นถึง 3 เท่า
นิกีเลช พัตตาชารียา นักเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s Economy.com กล่าวว่า แม้ว่าพรรคจะได้รับคะแนนสนับสนุนจากผู้ลงคะแนนเสียงจำนวนมาก แต่รัฐมนตรีคลังก็ยังมีงานใหญ่รออยู่ และการปกิรูปในด้านต่างๆ ซึ่งถือเป็นงานหนักสำหรับนักการเมือง