Knight Frank LLP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของดูไบซึ่งเป็นที่ตั้งของเกาะปาล์มอันโด่งดัง ได้รับผลกระทบหนักสุดเมื่อเทียบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์แห่งอื่นๆทั่วโลก หลังจากภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ล่มสลายลง
นิค บาร์เนส ผู้บริหารของ Knight Frank LLP กล่าวว่า "ราคาบ้านในดูไบ ซึ่งเป็นอาณาจักรบ้านและที่อยู่อาศัยที่เฟื่องฟูมากเป็นอันดับ 2 ในบรรดา 7 รัฐใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วงลง 32% ในช่วงเวลา 12 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. เศรษฐกิจดูไบระส่ำระสายอย่างหนัก ทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมของดูไบขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวขึ้นได้เร็วเพียงใด"
ข้อมูลของ Knight Frank ระบุว่า ดูไบได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลกมากกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์แห่งอื่นๆของโลก เนื่องจากภาวะเฟื่องฟูด้านการก่อสร้างซบเซาลง และทำให้จำนวนบ้านที่ยังไม่ขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนราคาบ้านในลัทเวียร่วงลง 36% ในปีนี้ ขณะที่ราคาบ้านในสิงคโปร์ดิ่งลงเกือบ 24% ราคาบ้านในอังกฤษและสหรัฐ ร่วงลงราว 14%
แต่ราคาบ้านในอิสราเอลทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด โดยราคาปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 11 % ขณะที่ราคาบ้านในสาธารณเชคปรับตัวขึ้นมากเป็นอันดับ 2
"ดีมานด์ในอิสราเอลยังคงมีมากกว่าซัพพลาย และกำลังซื้อของชาวอิสราเอลสูงมาก นอกจากนี้ ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในอิสราเอลก็เข้าลงทุนในตลาดอสังหาริมริมทรัพย์ของอิสราเอลอย่างคึกคักด้วย" Knight Frank กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน