นักวิเคราะห์คาดราคาบ้านในสหรัฐเดือนมี.ค.ร่วง 18.4% ชี้จำนวนบ้านค้างสต็อกเริ่มลดลง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 26, 2009 12:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ดัชนี S&P/Case-Shiller ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ๆของสหรัฐ จะร่วงลง 18.4%ในเดือนมี.ค. หลังจากดิ่งลง 18.6% ในเดือนก.พ.

จอห์น เฮอร์มาน หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Herrmann Forecasting ในรัฐนิว เจอร์ซี กล่าวว่า "ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น และจำนวนบ้านค้างสต็อกก็เริ่มลดลง ขณะนี้จำนวนผู้ซื้อบ้านและผู้ขายบ้านเริ่มอยู่ในระดับสมดุล"

อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า ราคาบ้านในสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าตลาดการเงินจะฟื้นตัวได้ไม่ยากนัก

"เรากำลังเริ่มเห็นราคาบ้านดิ่งลงถึงก้นเหวและพร้อมที่จะดีดตัวขึ้นแล้วในขณะนี้ อสังหาริมทรัพย์ที่ค้างสต็อกอยู่ในสหรัฐมีแนวโน้มที่จะถูกระบายออกสู่ตลาดในไม่ช้านี้ ซึ่งจะทำให้ราคามีเสถียรภาพขึ้น ผมคาดว่าราคาบ้านจะร่วงลงอีก 5%ในไม่ช้านี้ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก จากนั้นราคาจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น" กรีนสแปนกล่าวในที่ประชุมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ (NAR) ที่กรุงวอชิงตัน

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี S&P/Case-Shiller ประจำเดือนมี.ค.ในคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ความสนใจ

นอกจากนี้ สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 43 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ