สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและหันเข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทะยานขึ้นเหนือความคาดหมาย นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 953.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 936.60-960.10 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 9.50 เซนต์ ปิดที่ 14.600 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 4.35 เซนต์ ปิดที่ 2.1410 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,139.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 20.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 231.55 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.10 ดอลลาร์
เดฟ เมเกอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท อลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรสัญญาทองคำเดือนมิ.ย.อย่างหนักตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากภาวะการซื้อขายที่คึกคักในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สดใสและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 54.9 จุดในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่ 40.8 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีพ.ศ.2546
สแตนดาร์ด แบงก์ กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวิเคราะห์จากปัจจัยทางเทคนิคในระยะยาว