เงินหยวนของจีนตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องนโยบายค่าเงินที่ส่งเสริมธุรกิจส่งออก ก่อนที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐจะออกเดินทางเยือนจีนในวันที่ 31 พ.ค.นี้
หวัง ฉีชาน รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ลดอัตราอ้างอิงการซื้อขายเงินหยวนรายวันลง 0.13% ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยจีนต้องการที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดส่งออกโลก หลังจากที่การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศปรับตัวลดลงมาเป็นเวลาถึง 6 เดือนแล้ว
บลูมเบิร์กรายงานว่า หยาง เฉิงกุน นักวิเคราะห์ค่าเงินของไชน่า ซิติค แบงค์ กล่าวว่า จีนได้ลดอัตราอ้างอิงก่อนที่รมว.คลังสหรัฐจะเยือนจีน เพื่อให้รมว.สหรัฐได้รับรู้ว่า จีนจำเป็นต้องทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลงเพื่อปกป้องกลุ่มธุรกิจส่งออก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจีนจะยกเลิกนโยบายการคงค่าเงินหยวนให้มีเสถียรภาพ
เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.04% แตะ 6.8334 หยวนต่อดอลลาร์ เมื่อเวลา 13.31 น.ตามเวลาท้องถิ่นในจีนวันนี้ และอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 6.8372 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา และอ่อนตัวลง 0.15% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ตลาดหุ้นและตลาดเงินในจีนจะปิดทำการในช่วง 2 วันข้างนี้เนื่องในวันหยุด
รมว.คลังสหรัฐกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐจะผลักดันให้จีนเปิดทางให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าเงินหยวนจะดีดตัวขึ้น 21% นับตั้งแต่ที่ได้ยกเลิกการผูกติดเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนก.ค. 2538
ยอดการส่งออกของจีนในเดือนเม.ย.ร่วงลง 17% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อดีมานด์สินค้า โดยธนาคารกลางจีนได้ควบคุมค่าเงินหยวนไว้ไม่ให้แข็งค่าขึ้นตั้งแต่เดือนก.ค. และปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนผันผวนได้ 0.1% หรือสูงกว่านั้นเพียงแค่ 4 วันตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เงินหยวนเคยร่วงลง 0.7% เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ปีที่แล้ว ก่อนที่นายเฮนรี พอลสัน อดีตรมว.คลังสหรัฐจะเดินทางเยือนจีน 3 วัน และอ่อนค่าลง 0.1% เมื่อวานนี้ นับเป็นสถิติที่ตกลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการลดอัตราอ้างอิงลง 0.07% ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน
รมว.คลังสหรัฐจะเดินทางเยือนจีนระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. โดยจีนและสหรัฐจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่วมมือในการแก้วิกฤตการเงินโลก และเตรียมจัดการเจรจาด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์