กระทรวงการค้าญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย.ร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 แล้ว เนื่องจากแนวโน้มในตลาดงานยังคงถดถอยลงเรื่อยๆ รวมทั้งค่าแรงที่ลดลงก็เป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการใช้จ่ายของลูกค้า
ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.อ่อนตัวลง 2.9% หลังจากที่อ่อนตัวลงไป 3.8% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกจะอ่อนตัวลง 3.3%
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกกำลังลุกลามไปยังภาคครัวเรือน ขณะที่ญี่ปุ่นอาจจะมีปัญหาในการผลักดันเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้อย่างยั่งยืนได้อีก ตราบใดที่บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า มอเตอร์ไปจนถึงพานาโซนิค ยังคงปลดพนักงาน เพื่อบรรเทาการขาดทุน
เคียวเฮอิ โมริตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบาร์เคลย์ส แคปิตอล กล่าวว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนตัวลงมากเกินกว่าที่จะช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ เมื่อพิจารณาจากภาวะถดถอยในตลาดแรงงาน เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ในภาวะที่เปราะบางเนื่องจากดีมานด์ในประเทศอ่อนตัว
ชินิชิโร่ โคบายาชิ ผู้อำนวยการฝ่ายสถิติของกระทรวงการค้าญี่ปุ่น กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ร่วงลง 6.7% เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตต่างลดราคาสินค้าเพื่อดึงดูดผู้บริโภค
อิเซตัน มิตซูโคชิ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นคาดว่า ปีงบประมาณนี้จะมีกำไรลดลงไปถึง 90%