สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.พุ่งสูงเกินคาด 2.9% แตะ 4.68 ล้านยูนิต

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 28, 2009 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.9% แตะระดับ 4.68 ล้านยูนิต จากเดือนมี.ค.ที่ 4.55 ล้านยูนิต และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.66 ล้านยูนิต โดยตัวเลขที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากผู้ซื้อมีความกล้าที่จะนำเงินมาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมองเห็นโอกาสในยามที่ราคาบ้านตกต่ำลงต่ำกว่า 15.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราคาบ้านของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ 170,000 ดอลลาร์ ซึ่งตกลงจากระดับ 201,300 ดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเป็นราคาที่ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากเดือนม.ค. ที่ลดลง 17.5%

อย่างไรก็ตาม จำนวนบ้านที่ยังขายไม่ออกในเดือนเม.ย.ยังเพิ่มขึ้นเกือบ 9% จากเดือนก่อนมาอยู่ที่เกือบ 4 ล้านยูนิต

ลอเรนซ์ ยูน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐกล่าวว่า "เรายังมีความจำเป็นต้องทำยอดขายบ้านให้ได้มากขึ้นเพื่อโละบ้านค้างสต็อกออกให้เหลือน้อยลง เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ราคาบ้านมีเสถียรภาพและตลาดอสังหาริมทรัพย์จะสามารถฟื้นตัวได้ในที่สุด"

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัญหาใหญ่คือ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มลูกค้าระดับสูงที่มีราคาตั้งแต่ 750,000 ดอลลาร์ขึ้นไปนั้นยังคงซบเซา ซึ่งนี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทางสมาคมฯออกโรงกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขยายวงเงินกู้ให้ผู้บริโภคด้วยการเพิ่มวงเงินสูงขึ้นให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างทั่วถึง ไม่ใช่เฉพาะในย่านทำเลทองอย่างแคลิฟอร์เนีย และนิวยอร์กเท่านั้น



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ