เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวช้าลงในไตรมาสที่แล้ว สร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยอีกเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของฟิลิปปินส์ ขยายตัวเพียง 0.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งที่นักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่าจะขยายตัวถึง 2.4%
ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ได้ทุ่มงบประมาณ 3.3 แสนล้านเปโซ (7 พันล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ลดภาษี และลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งร้ายแรงสุดในรอบ 80 ปี ส่งผลให้ตัวเลขบัญชีขาดดุลมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และอาจกดดันให้ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันในวันนี้
"รัฐบาลต้องยอมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแม้ว่าจะทำให้มีบัญชีขาดดุล เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นเศรษฐกิจก็จะขยายตัวช้าเกินไป" อิลเดมาร์ค บาวติสตา นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท เมโทรโพลิแทน แบงค์ แอนด์ ทรัสท์ ในมะนิลา กล่าว
รัฐบาลฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าระดับ 3.1% ในปีนี้ ซึ่งถือว่าขยายตัวน้อยสุดในรอบ 8 ปี
ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาครัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนเม.ย. เนื่องจากรายได้ของรัฐบาลลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้รัฐบาลคาดการณ์ว่าตัวเลขบัญชีขาดดุลจะเพิ่มขึ้นแตะ 1.992 แสนล้านเปโซในปีนี้ และตัวเลขดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน