ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และยูบีเอส เอจี คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียจะฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายและกระตุ้นนักลงทุนต่างชาติให้กลับเข้าลงทุน
"เราคาดว่าอัตราการอุปโภคบริโภคในอินเดียจะสูงขึ้น และยอดขายในภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะนำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" ฟิลิป ไวแอท นักวิเคราะห์จากยูบีเอสในฮ่องกงกล่าว
อนุภูติ ซาเฮย์ นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า อินเดียซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชียจะขยายตัวขึ้น 6.2% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าขยายตัวเพียง 5.2% หลังจากธนาคารกลางอินเดียปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้วหลายครั้งในระยะเวลาไม่กี่เดือน นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นการคลังที่อาจหนุนตัวเลขจีดีพีโตขึ้นเกือบ 7% โดยเฉพาะเมื่อนักลงทุนขานรับชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรคคองเกรส ซึ่งทำให้นายมานโมฮัน ซิงห์ รั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดียอีกสมัย
"นักลงทุนต่างชาติหลังไหลเข้าสู่อินเดียจำนวนมาก โดยเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิในอินเดียพุ่งขึ้นเป็น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ณ เดือนเม.ย.ปีนี้ จากเดือนมี.ค.ปีนี้ที่ระดับ 100 ล้านดอลลาร์" ไวแอทกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียพุ่งขึ้นไปแล้ว 46.3% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น และเมื่อวานนี้ดัชนี Sensex ดีดขึ้น 3.8% หรือ 520.41 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.เป็นต้นมา
ส่วนค่าเงินรูปีพุ่งขึ้น 5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 10 สกุลเงินหลักของเอเชีย