เงินวอนของเกาหลีใต้ร่วงนำสกุลเงินเอเชียอ่อนค่าลงท่ามกลางความวิตกกังวลต่อความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือที่ขู่ว่าจะใช้กำลังทางทหาร ซึ่งสถานการณ์ตึงเครียดที่ปะทุขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีได้บั่นทอนความต้องการลงทุนสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินวอน
นอกจากนี้ เงินริงกิตของมาเลเซียและเปโซของฟิลิปปินส์ร่วงลงหลังจากทั้งสองประเทศรายงานภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายหนักกว่าคาดการณ์ในช่วงไตรมาสแรก ขณะที่สกุลเงินเอเชียร่วงลงทั่วทั้งกระดาน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังดิ่งลงหนักสุดในรอบ 2 สัปดาห์จากกระแสคาดการณ์ว่า ดอกเบี้ยเงินกู้ที่พุ่งสูงขึ้นจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:51 น.ตามเวลาในกรุงโซล เงินวอนอ่อนค่าลง 0.6% แตะที่ระดับ 1,277.42 ต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินริงกิตทรุดตัวลง 0.6% และเงินเปโซอ่อนค่าลง 0.5% ส่วนเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียตกลง 0.6% ขณะที่ในวันนี้ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และไต้หวันปิดทำการเนื่องในวันหยุด
"ขณะนี้เราเห็นว่านักลงทุนเริ่มปลีกตัวออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง จากความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวได้ช้า" ราฟาเอล อัลการ์รา นักวิเคราะห์จากซีเคียวริตี้ แบงก์ คอร์ป ในกรุงมะนิลากล่าว "เมื่อใดก็ตามที่อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูง ประชาชนจะกู้ยืมเงินน้อยลงและนั่นจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก"
ทั้งนี้ เงินวอนอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้วซึ่งทำสถิติอ่อนค่ายาวนานที่สุดในรอบ 3 เดือน หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดลองนิวเคลียร์และยิงขีปนาวุธ พร้อมทั้งขู่ว่าจะดำเนินการทางทหารตอบโต้ที่เกาหลีใต้ที่เข้าร่วมโครงการยับยั้งการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูงที่นำโดยสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม เงินวอนสามารถฟื้นตัวขึ้นจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรกหลังจากที่ธนาคารกลางเกาลีรายงานว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเม.ย.กระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ 4.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 6.65 พันล้านดอลลาร์
แซม ฮอง นักวิเคราะห์จากชินฮาน แบงก์ ในเกาหลีใต้กล่าวว่า "เงินวอนอ่อนค่าลงจากปัญหาเรื่องการทดสอบนิวเคลียร์ แต่การร่วงลงของค่าเงินดังกล่าวไม่ได้ทรุดตัวลงเร็วนัก เพราะยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดยังอยู่ในระดับที่ดีอยู่"