รัฐบาลออสเตรเลียภายใต้การนำโดยนายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ได้ออกมาปกป้องแผนการจ่ายเงินโบนัสให้แก่ผู้เสียชีวิตเกือบ 16,000 ราย หลังจากที่ฝ่ายค้านออกมาวิจารณ์ว่าการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่ายขาดการไตร่ตรอง
การจ่ายเงินโบนัสดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่รัฐบาลประกาศเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อพยุงเศรษฐกิจของประเทศที่เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีจนส่งผลให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้น โดยผู้ทีได้รับเงินโบนัสยังได้รวมไปถึงชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศด้วย
เครก อีเมอร์สัน รัฐมนตรีธุรกิจขนาดย่อม ปฏิเสธเสียงวิจารณ์ของฝ่ายค้านในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ออสเตรเลียน บรอดแคสติง คอร์ป ว่า 99.5% ของเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถูกจ่ายให้แก่ผู้ที่สมควรได้รับ และเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างรวดเร็วเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานของประเทศ
ภายใต้แผนดังกล่าว รัฐบาลจะจ่ายเงินให้แก่ผู้เสียชีวิตในระหว่างหรือหลังจากปีงบประมาณ 2550-2551 ถ้าบุคคลผู้นั้นหรือตัวแทนได้ยื่นขอคืนภาษีตรงตามหลักเกณฑ์
โจ ฮอคกี้ โฆษกด้านการคลังของฝ่ายค้าน กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้เป็นการนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้โดยเปล่าประโยชน์ เพราะการจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วและผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศไม่มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของออสเตรเลียเลย นี่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของรัดด์ขาดความน่าเชื่อถือและไว้วางใจทางเศรษฐกิจ