ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐประจำเดือนเม.ย.อาจฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายหนักสุดในรอบ 50 ปีเริ่มคลี่คลายลง
นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่มีอายุการใช้งานนานหลายปีอาจเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย. จากอานิสงส์ของยอดจองเครื่องบินเชิงพาณิชย์ของโบอิ้ง โค ที่ดีดตัวขึ้น โดยในเดือนเม.ย.โบอิ้งมียอดสั่งซื้อเครื่องบิน 17 ลำ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6 เดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดส่งมอบเครื่องบินรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 39 ลำ ลดลงจากจำนวน 50 ลำในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่อาจเพิ่มขึ้น 1.1% มาอยู่ที่ 360,000 ยูนิต
สถานการณ์ในตลาดที่อยู่อาศัยและภาคการผลิตที่เริ่มดีขึ้นหลังจากตกต่ำอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในที่สุด แต่ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์ยังมองว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะยังมีแรงกดดันภายใต้ข้อจำกัดต่างๆเพราะธนาคารพาณิชย์ยังลังเลใจที่จะออกเงินกู้ ขณะที่อัตราว่างงานยังคงพุ่งสูง
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจอื่นๆอาจมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากที่บริษัทมียอดสินค้าค้างสต็อกลดลงในไตรมาสแรก โดยสถานการณ์ในตลาดเงินที่ดีขึ้น และความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจและครัวเรือนที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงกระแสคาดการณ์ที่ว่าผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงมีแนวโน้มคลี่คลายลง
เจมส์ โอ ซัลลิแวน นักวิเคราะห์จากยูบีเอส ซีเคียวริตี้ แอลแอลซีในสแตมฟอร์ด กล่าวว่า "เราได้เห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าความอ่อนแอในภาคธุรกิจต่างๆเริ่มจางหายไปบ้างแล้วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา"
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในวันนี้ เวลา 8:30 น.และเผยยอดขายบ้านใหม่ในเวลา 10:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย)