นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่จะยกเลิกการประดวกราคาจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ออคชั่น ตามข้อเรียกร้องของภาคเอกชน เนื่องจากระบบดังกล่าวมีผลดีมากกว่า โดยเฉพาะการสกัดกั้นระบบการฮั้วประมูลงานภาครัฐที่ทำให้ประหยัดงบประมาณของราชการได้
ดังนั้น รัฐบาลจะนำระบบระบบอี-ออคชั่น มาใช้ในโครงการลงทุนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 (เอสพี 2) แน่นอน เพราะทำให้เกิดความโปร่งใส และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย เกี่ยวกับการออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ จำนวน 4 แสนล้านบาท ในวันที่ 3 มิ.ย.52 หากออกมาในทางที่ดี กระทรวงการคลังก็สามารถกู้เงินได้ทันทีเพื่อนำมาลงทุนตามแผนงานได้ทันที
ทั้งนี้ แนวทางการลงทุนในโครงการเอสพี 2 จะให้ความสำคัญกับโครงการก่อสร้างระบบชลประทาน ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และโครงการสร้างทางสร้างถนน ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ก่อน เพื่อให้เกิดการสร้างงาน การซื้อขายสินค้า การผลิตสินค้า เพื่อสร้างเม็ดเงินให้เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
"มั่นใจว่าเมื่อเปิดประมูลโครงการเหล่านี้แล้วจะสามารถลงนามได้ภายใน 60 วัน และจะสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในวันที่ 1 ต.ค. นี้ หรือต้นปีงบประมาณ 53 นี้ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนได้ตั้งแต่ต้นปี 53 ได้" นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว