นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้บริหารกลุ่มบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสเอเชีย และประเทศไทยว่า ทางประธานกลุ่ม GM ได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทแม่ในต่างประเทศที่มีการปรับโครงสร้างตามกฎหมาย แต่ถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่ต้องดำเนินการตามภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
แต่ยืนยันว่า GM ประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยบริษัท ยังมีความแข็งแกร่ง สามารถดำเนินการธุรกิจต่อไปได้ ขณะที่กระทรวงพร้อมที่จะดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้เท่าเทียมกับผู้ประกอบการไทย
ส่วนความต้องการเงินลงทุนเพื่อลงทุนเพิ่ม ที่ผ่านมาทาง GM ยังไม่ได้มีการเจรจาขอความช่วยเหลือพิเศษจากรัฐบาล เพียงหาทางเพิ่มเงินลงทุนภายใต้กฎหมายการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เท่านั้น
ด้านนาย สตีเฟน เค.คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสเอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด กล่าวยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจของ GM ในไทยจะไม่มีการปลดพนักงาน เพราะเชื่อว่าการลงทุนในไทยจะเติบโตได้อีก คาดว่าปีนี้จะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 40,000 คัน แม้จะลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มียอดผลิตรวม 100,000 คัน โดย 75% ของยอดการผลิตเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก
ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับรถกระบะรุ่นใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์ไทยและธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์)คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 60-90 วัน ส่วนโครงการผลิตรถยนต์อี 85 ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลไทย